การบรรพชา และอุปสมบท ของ พระครูปลัดวชิรโสภณญาณ (ศิลา สิริจนฺโท)

พระครูปลัดวชิรโสภณญาณ (ศิลา สิริจนฺโท),ป.ธ.6

  • การบรรพชาเมื่อปีพ.ศ. 2500 ขณะอายุ 12 ปีเป็นสามเณร สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ณ วัดธาตุประทับ บ้านธาตุประทับ อำเภอเชียงขวัญ จังหวัดร้อยเอ็ด มีหลวงพ่อพิมพ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้ติดตามครูบาอาจารย์ ออกร่วมคณะธุดงค์ ไปนมัสการพระธาตุพนม ระหว่างเดินธุดงค์ มีโอกาสอุปัฏฐากพระมหาเถระฝ่ายอรัญวาสี รูปสำคัญในสายพระอาจารย์มั่นภูริทัตโต คือพระครูสีลขันธ์สังวรณ์ (อ่อนสี สุเมโธ) ณ จังหวัดมุกดาหาร และได้รับคำสอน ผญาธรรม (คำสอนอีสาน) จากพระธรรมราชานุวัตร (แก้ว กันโตภาโส) อดีตเจ้าอาวาสพระธาตุพนม
  • อุปสมบทครั้งที่1 พ.ศ. 2509 อายุย่าง 21 ปี ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ณ พัทธสีมาวัดบูรพาภิราม อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมีเจ้าคุณพระสิริวุฒิเมธี (พุทธา สิริวุฑฺโฒ ป.ธ.4) อดีตเจ้าคณะจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายานามว่า สิริจนฺโท และได้ลาสิกขาครั้งที่1 เมื่อ พ.ศ. 2521 ด้วยเหตุได้รับการวิงวอนจากญาติให้ลาสิกขาออกมาเป็นครูผู้ช่วยสอนที่โรงเรียนธาตุประทับ และดูแลมารดารวมถึงญาติผู้ใหญ่ป่วยหนักเป็นเวลา 1 ปี
  • อุปสมบทครั้งที่2 เมื่อปีพ.ศ. 2522 อายุ 34ปี ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2522 เวลา 06.15 น. ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ณ พัทธสีมาวัดมาลุวาคณาราม ตำบลธวัชบุรี อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด มีพระสมุห์เป ปุญฺโญเป็นพระอุปัชฌาย์ พระน้อย สีลวณฺโณ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระปลัดสมาน ธมฺมรกฺขิโต เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายานามว่า สุริยจิตฺโต [4] หลังอุปสมบทช่วงปี 2522-2539 ได้ไปพำนัก วัดโนนเดื่อ บ้านโนนเดื่อ ตำบลมะอึ อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด สลับกับวัดธาตุประทับ และได้ลาสิกขาครั้งที่2 เมื่อปีพ.ศ. 2539 ด้วยเหตุเกิดเหตุการณ์ทางครอบครัว พี่สาวป่วย ไม่มีคนดูแล เพราะท่านเหลือญาติเพียงคนเดียว และพี่สาวถึงแก่กรรมในเวลาต่อมา เมื่อหมดภาระหน้าที่ในครอบครัว กับการลาสิกขาออกมาอยู่8เดือนแล้วกลับเข้าอุปสมบทใหม่